
ADHD และ QEEG
ADHD เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในวัยเด็ก และหมายถึงภาวะที่แสดงอาการวอกแวก สมาธิสั้น และหุนหันพลันแล่น เนื่องจากขาดความสนใจอย่างต่อเนื่อง ตามการวินิจฉัย DSM-IV, ADHD แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทขาดความสนใจ (Attention Deficit Type), ประเภทสมาธิสั้น (Hyperactivity Type), และประเภทขาดความสนใจและสมาธิสั้น (Attention Deficit + Hyperactivity Type) แต่การรักษามักจะเหมือนกัน
ADHD เป็นที่ทราบกันว่าเกี่ยวข้องกับการขาดสารสื่อประสาท เช่น โดปามีน เซโรโทนิน นอร์เอพิเนฟริน เป็นต้น ความไม่สมดุลเหล่านี้มีผลกระทบต่อการทำงานของสมองในรูปแบบต่างๆ และสะท้อนให้เห็นจากการเปลี่ยนแปลงของ EEG
จากการศึกษา QEEG ก่อนหน้านี้ พบว่า ADHD แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ

- รูปแบบที่หนึ่ง: คลื่นอัลฟาส่วนเกินในสมองกลีบหน้า + ความถี่อัลฟาเป็นรูปแบบปกติ
- รูปแบบที่สอง: คลื่นอัลฟาส่วนเกินในสมองกลีบหน้า + ความถี่อัลฟาช้าลง
- รูปแบบที่สาม: คลื่นทีตาส่วนเกินในสมองกลีบหน้า ซึ่งช้ากว่าคลื่นอัลฟา
- รูปแบบที่สี่: คลื่นเบตา 3 ส่วนเกิน
รูปแบบเหล่านี้สามารถตีความได้ว่าเกิดจากความไม่สมดุลของสารสื่อประสาท การตรวจวัด QEEG ล่วงหน้าสำหรับผู้ป่วย ADHD สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จในการรักษา โดยการพิจารณารูปแบบของ QEEG และสั่งจ่ายยาเฉพาะบุคคลที่มีกลไกการออกฤทธิ์สอดคล้องกับ QEEG ที่ตรวจพบ
กรณีศึกษา
ข้อมูลผู้เข้าร่วม
- อายุ: 12 ปี / เพศ: ชาย / วินิจฉัย: ADHD
- ขณะฟังครูสอน หากมีเสียงอื่นแทรก จะหันไปมองทันที มีปัญหาในการจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จึงทำให้อ่านโจทย์ไม่จบ และทำข้อสอบผิดในระหว่างการแก้ปัญหา
พลังคลื่นสมอง – แผนที่โทโพกราฟฟิก

เมื่อเปรียบเทียบกับคนทั่วไป พบว่าในสมองกลีบหน้า มีคลื่นทีตาเพิ่มขึ้น และคลื่นอัลฟาช้าเพิ่มขึ้นโดยรวม
Power Spectrum / Component

เมื่อเปรียบเทียบกับคนทั่วไป ใน Power Spectrum และ Component พบว่ามีคลื่นสมองช้า (คลื่นทีตาและคลื่นอัลฟา) เพิ่มขึ้นในสมองกลีบหน้า
ภาพ 3 มิติ

เมื่อเปรียบเทียบกับคนทั่วไป พบว่ามีคลื่นทีตาและการเชื่อมต่อ (Connectivity) เพิ่มขึ้นในสมองกลีบหน้า